เมนู

พระพุทธฎีกาโปรดว่า ธรรมดาบรรพชิตรู้ว่ากิจสิ่งไรจะให้ทุกข์ ก็พึงพากเพียรให้
สำเร็จกิจเสียแต่เดิม อย่าดูเยี่ยงชาวเกวียนที่ทิ้งทางเก่าเสีย เข็นไปทางใหม่ไม่เสมอ เกวียนก็หัก
เพลาก็หัก ตัวก็ซบเซาอยู่ ดุจพระโยคาวจรภิกษุไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร จึงให้เร่งเพียรไว้แต่เดิม
พระเจ้ากรุงมิลินท์ได้ทรงฟังก็โสมนัสตรัสว่า สมควรแล้ว พระผู้เป็นเจ้าอุปมาในกาลบัดนี้
ปฏิกัจเจววายามกรณปัญหา คำรบ 5 จบเท่านี้

ปกติอัคคิโต นิรยัคคีนัง อุณหาการปัญหา ที่ 6


ราชา

สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าว่าไว้กับโยมว่า ไฟเป็นปรกตินี้ร้อนเป็นประมาณ ไฟในนรกนี้
ร้อนกล้าหาญกว่าไฟในมนุษย์ อนึ่งเล่า มาตาว่าบุคคลจะเอาก้อนศิลาอันน้อยใหญ่ใส่ลงไปใน
เพลิงอันเป็นปกตินี้วันยังค่ำ น วิลิยํ คจฺฉติ ก็มิได้ยับย่อยไป บุคคลจะเอาศิลาใหญ่ประมาณ
เท่ากูฏาคารปราสาทใส่เข่าไปในไฟนรกนั้นไม่ทันถึงวัน แต่ขณะเดียวก็ย่อมไป น สทฺทหามิ
โยมจะได้เชื่อคำคำนี้หามิได้ ด้วยสัตว์ในนรกเพลิงไหม้อยู่ถึงพันปีก็มิได้ยับย่อมไป เหตุดังนี้
โยมจะเชื่อก็หามิได้
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า กึ มญฺญสิ มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราช-
สมภาร พระราชสมภารสำคัญอย่างไร บพิตรพระราชสมภารดำริเข้าพระทัยบ้างหรือไม่ว่า
สัตว์ทั้งหลายคือไก่และนกยูงมังกรปลาฉนากปลาฉลามและเต่า สัตว์เหล่านี้กินกรวดและก้อน
ศิลาละเอียดและหยาบ บพิตรได้ยินเขาเล่าบ้างหรือไม่
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสว่า เออ โยมได้ยินเขาว่าอยู่ นะพระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนจึงถวายพระพรถามอีกเล่าว่า บพิตรพระราชสมภารเข้าพระทัยหรือไม่ว่า
กรวดหินที่สัตว์เหล่านั้นกินตกเข้าไปถายในลำไส้นั้นจะย่อยยับเป็นคูถไปหรือไม่เล่า
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสรับคำไปว่า เออ พระผู้เป็นเจ้า ก้อนกรวดก้อนหินที่
สัตว์กินเข้าไปถึงภายในไส้แล้วก็ย่อยยับไป
พระนาคเสนถามว่า ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร สัตว์ที่ปฏิสนธิในครรภ์แห่งสัตว์
ทั้งหลายเหล่านี้จะย่อมยับไปด้วยหรือประการใด